ควรใช้ กลยุทธ์การสะสมคะแนน POINT ไหม ?
ควรใช้ กลยุทธ์การสะสมคะแนน POINT ไหม ?
ในทุกวันนี้ การซื้อสินค้าหรือบริโภคสินค้า อาหาร หรือแม้แต่การบริการ
ของผู้บริโภคนั้นมีทางเลือกเยอะเต็มไปหมดไม่ว่าจะ Free ไม่ว่าจะลดราคา
ไม่ว่าจะแถม แต่แล้วกลยุทธ์ที่นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจห้างร้านชอบ คือ
การสะสมคะแนน เพื่อสามารถสร้างฐานลูกค้าประจำ ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่อาจสูงถึง 10
เท่าของลูกค้าเก่าในบางธุรกิจ และ บวกกับการซื้อสินค้าเพื่อทดลอง
เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์ครั้งหนึ่งเพียงเท่านั้น
ไม่อาจเพียงพอจะทำให้การขายของเจ้า Brand นั้นสามารถเติบโตในด้านยอดขายได้ดังนั้น
การสะสมคะแนนเพื่อเรียก คุณลูกค้าให้กลับมาใช้บริการหรือซื้อซ้ำนั้นจึวเป็นเครื่องมือที่เราเห็นกันเต็มไปหมด
ไม่ว่าจะร้านกาแฟเองก็ดี ไม่ว่าจะมาในรูปแบบ คะแนน POINT ในบัตรเครดิต
เพื่อแลกสินค้าฟรี หรือของกำนัลต่างๆ
ในมุมที่นักการตลาดให้ความสำคัญไม่ใช่เพียง
Revisit การกลับมาใช้บริการ
และ Repeat การกลับมาซื้อซ้ำ เท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึง Lifestyle
ของลูกค้าเราด้วยว่า เขาจะสะดวกกับการรับ Point ในรูปแบบไหน และ Point มีความสำคัญต่อธุรกิจเราจริงหรือเปล่า
เพราะมันคือต้นทุน COST เป็นการลดกำไรของร้านเราเอง เช่น
ร้านกาแฟสดขนาดเล็ก 10 แก้ว แถม 1 แก้ว
แต่ย่านที่เราขายเป็นร้านค้าที่มีแต่คน Walk In ผ่านไปผ่านมาไม่มีคนในท้องที่อยู่มาก
และ ลูกค้าซื้อเราเพราะสะดวกซื้อและเรามีทำเลที่ดีอยู่แล้ว
เราอาจจะไม่ต้องมีการสะสมคะแนนก็ได้เพราะ ต้นทุนของ 1 แก้ว
และ ต้นทุนการพิมพ์ใบคะแนน ที่สำคัญคือแจกทุกคนโดยที่ไม่ได้สร้างความรู้จัก
ชวนคุยเพื่อจะได้ทราบว่าควรให้ใบคะแนนไหม
ใบคะแนนอาจจะมีให้ได้แต่ควรคัดเลือกคนในการให้ ถ้าเป็นคนที่บังเอิญมาแถวนี้
และโอกาสในการซื้อซ้ำน้อยมากเราอาจจะไม่ให้ เพราะการทำธุรกิจต้อง Focus เราชอบคิดเผื่อว่า เขาอาจจะมีเพื่อนอยู่แถวนี้ เขาอาจจะบอกต่อให้เรา
ครั้งหน้าเขากลับมาใช้ได้ หรือแม้แต่ต้นทุนใบคะแนนไม่เท่าไรให้ไม่เถอะ
แต่อย่าลืมว่า กำไรเราต่อชิ้น ก็ไม่เท่าไรเช่นกัน
สุดท้ายสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้คือ การที่คุณ
รู้จักกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณชัดเจนและ Focus ในการทำการตลาดกับคนกลุ่มนี้เท่านั้น
ด้วยงบประมาณที่จำกัดเราควรจะเข้าใจ Lifestyle ของลูกค้าเรามากที่สุด
ส่วนร้านค้าหรือบริการที่ควรจะต้องมีนั้น
การสะสมคะแนนเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเพราะ การที่เราจะดึงลูกค้าเข้าร้านเราซ้ำๆ
และ สร้างความ Royalty ในยุคนี้ต้องใช้กลยุทธ์ต่างๆเข้ามาเป็นส่วนผสมแต่สิ่งที่สำคัญนั้นก็เช่นกันคือ
ต้องคำนึงถึง Lifestyle ของลูกค้าเป็นหลักสำคัญ เช่น
การสะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นของกำนัล หรือส่วนลด
จะได้รับคะแนนทุกๆการซื้อหรือทานอาหารครบ 100 บาท = 1
Point หรือการซื้อสินค้าทุกๆ 25 บาทได้ 1
Point จะสามารถสร้างการซื้อซ้ำและลูกค้าจะกลับมาซื้อคุณบ่อยครั้งขึ้นแน่นอน
และ ถ้าคุณสามารถหาของกำนัลที่เหมาะกับ Lifestyle ที่ลูกค้าของคุณอยากได้
กำลังอยากได้ และ ไม่อยากจะซื้อเอง คุณจะสามารถเข้าไปนั่งในใจเขาแน่นอน เช่น
ร้านอาหารหนึ่งร้านที่เปิดย่านธุรกิจ และ ย่านที่พักอาศัย
เจ้าของร้านทักทายลูกค้าชวนลูกค้าคุยจนทราบว่า Lifestyle ของลูกค้าส่วนใหญ่เป้นคนทำงานหนัก
และ ต้องการไปนวดผ่อนคลายสักครั้งเพื่อพักผ่อน แต่ด้วยหลักคิดของลูกค้าเขาคิดว่า
ไม่มีเวลาไม่อยากเสียเงินกับการบริการที่นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายหลักในชีวิตประจำวัน
และ ลูกค้าทำงานจะหยุดเพียงวันอาทิตย์เท่านั้น Lifestyle ชอบหาซื้อสินค้าใช้ชิวิตใกล้บ้านเท่านั้น
ทางร้านจึงไม่รอช้า จัดโปรโมชั่น เพียงสั่งเมนูนี้ ครบทุกกี่ครั้ง ได้กี่ Point
มาแลก ฟรี บัตรบริการนวดฟรีจาก ร้านสปาในบริเวณใกล้เคียง หรือ
นวดฟรีถึงบ้าน ได้ทั้งคู่ค้าที่เป้นร้านนวดสปา ในอนาคตอาจจะมีการจัดรายการรวมกันอีก
ได้ทั้งลูกค้าที่จะซื้อซ้ำ และได้ขายสินค้าใน Items ที่ต้องการขาย
ตัวอย่างนี้อาจจะเป็นเพียงตัวอย่างที่อาจจะใช้ได้ดีในกรณีที่ร้านค้าของคุณมีกลุ่มลูกค้า
ที่มี Lifestyle เช่นนี้อยู่ในจำนวนที่น่าสนใจ
มากพอที่จะจัดได้ และ คู่ค้าในย่านนั้นๆ มีรูปแบบธุรกิจที่น่าเชื่อถือที่จะส่งเสริมกันและกันได้ด้วยรายการ
Promotion
จากการใช้คะแนนสะสมนั้นเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งเท่านั้น
แต่สุดท้ายถ้าสินค้าและบริการของเรานั้นไม่ดีจริงๆ
เครื่องมืออะไรก็ไม่สามารถทำให้เกิดความสำเร็จทั้งในด้าน SALES และ BRAND ได้แน่นอน
Comments
Post a Comment