TOMMKT9

ความยากที่สุด อยู่ที่วันนี้       การดำรงชีวิตบนโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นทุกวัน  ยุคนี้ดูจะไม่ง่ายสำหรับทุกคนที่จะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้จริงๆ ยิ่งเราเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนผ่าน Transform ไปไกลเท่าไร เรายิ่งจะมีปริมาณคนตกขบวนมากเท่านั้น ปัจจัยพื้นฐานคือ การปรับตัวให้เข้าและยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องง่ายๆที่ ใครๆก็ทราบ ใครๆก็รู้ แต่น้อยลงที่ลงมือทำ การเปลี่ยนผ่าน Transform  ไปไกลเท่าไร คนตกขบวนมากเท่านั้น         กุญแจหลักสำคัญของสิ่งที่ยากในเรื่องการปรับตัวคือ การเริ่มการเปิดใจในการยอมรับและศึกษาถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เมื่อเราตั้งคำถามต่อไปจากโจทย์ที่เราเริ่มเปิดใจแล้วแท้จริง การยอมรับที่จะศึกษาเรื่องใหม่ๆนั้นยังมีกำแพงอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือ เวลาในการเริ่ม วันที่เราเริ่มต้นดีที่สุดคือวันไหนล่ะ คำตอบคือ วันนี้ครับ ความยากในการเริ่มต้นคือ วันแรกในการเริ่มต้นถ้าคุณตัดสินใจและลงมือทำทันที คุณจะสามารถข้ามผ่านยุค Transform ได้เร้วเท่านั้นดังนั้นอย่ารอ     เปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง  เรียนรู้กับสิ่งใหม่  และ ลงมือทำมันทันที  สำเร็จแน่นอนครับ

      วันนี้คุณเหลือเก็บเท่าไร       ภายใต้กระแสการแข่งขันในด้านการทำธุรกิจ การเร่งรีบ ในการใช้ชีวิตของคนเรา ไม่ว่าจะเร่งหาเงินจากการทำงาน หรือแม้แต่การประกอบกิจการของตัวเองก็ตามภายในภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ ต้นทุนการใช้ชีวิตต่างๆ สูงขึ้นในคณะที่ความต้องการความสะดวกสะบายในการใช้ชีวิตของคนเราทุกวันนี้ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะอะไรกันหรือครับ เพราะคนเราต้องการความสะดวกสบาย ในชีวิต Lifestyle และต้องการให้รางวัลต้นเอง ในด้านต่างๆ แม้แต่การตอบสนองสายตาคนอื่นหรือสถานะทางสังคม จากสิ่งที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่ส่งผลให้เราต้องเร่งรีบในการทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย แต่เมื่อเราลองมาดูกันจริงๆ จะมีสักกี่คนกันที่จะคิดถึงการเก็บเงิน ยิ่งเก็บได้น้อยหรือมีเงินเหลือเก็บน้อยจะยิ่งไม่เก็บเพราะ คิดว่ารอมีเงินค่อยเก็บ รอก้อนใหญ่มาจะแบ่งเก็บ เดี๋ยวค่อยเก็บ       ดังนั้น ยุคนี้เราไม่ได้แข่งขันกันในการหาเงินแล้ว เพราะขีดความสามารถในการหาเงินคนเราไม่ต่างกัน แต่ต่างกันที่ Mind Set ในการออมเงิน ใครออมเงินหรือเก็บเงินก่อนคนนั้นสำเร็จได้ก่อน และสามารถหาที่อยู่ให้เงินงอกงามได้ในเวลาที่เรากำลังทำงานปกต

วันนี้ คุณพกเงินในกระเป๋าสตางค์ น้อยลงไหม ?          ทุกวันนี้ ในแต่ละวันพฤติกรรม หรือ Lifestyle คนเรามีกี่เปลี่ยนแปลงไปตลอด และสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ๆตัวเรา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเมื่อเราลองสังเกตุดู สิ่งที่เกิดจากตัวเราเองบ้างในหลายๆครั้ง หรือการที่เราจะสังเกตุเพื่อน แม้แต่พฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า วิธีการจ่ายเงินในทางการทำการตลาดทุกๆครั้ง  เราต้องคำนึงถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวเราด้วยเสมอ และเมื่อเราลองสังเกตุพฤติกรรมตัวเราเองหรือคนใกล้ตัวในการใช้ชีวิตรายวันในแต่ละวัน เช่นเราสังเกตุตัวเราพักนี้ เราพกเงินเท่าไรในกระเป๋าสตางค์ เรากดเงิน ATM บ่อยขึ้นไหม เราโอนซื้อสินค้าบริการผ่านเทคโนโลยี Online Payment บ้างไหม เพราะอะไรพฤติกรรมของเราจึงเป็นอย่างนั้น เพราะเราคิดว่าการกดเงินหรือเก็บเงินไว้ในกระเป๋าสตางค์เยอะก็กลัวใช้จ่ายเยอะ กลัวเงินหายบ้าง และบางทีอาจมาจากสภาพคล่องส่วนตัวเราเองในแต่ละช่วงเวลา และคนใกล้ตัวเราไปกินข้าวกลางวันพร้อมกัน มีปัญหาการชำระเงินบ้างไหม ยังไม่กดเงินบ้างไหม ออกไปก่อนนะ       จากเรื่องต่างๆที่เรากล่าวมานั้น เราได้เข้าสู่ยุคที่คนเราเริ่มไม่พกเงินสดกันแล้วคิดแบ

คำถามที่ดีสร้างความสำเร็จ ?????             คำถามบนโลกใบนี้มีมากมายที่เราเคยได้ยินกันมา และอาจถูกถามจากคนอื่นๆอยู่เสมอ แต่จะมีกี่คนที่เคยถูกตัวเองตั้งคำถาม หรือ แปลง่ายๆคือ ถามใจตัวเราว่า เราจะคิดอย่างไรและจะแก้โจทย์นี้อย่างไร การตั้งคำถามนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตของคนเรา และ รวมไปถึงการทำธุรกิจ การทำการตลาด ถ้าคุณตั้งคำถามเป็น ชีวิตคุณจะสามารถสั่งให้ตัวคุณเองหาคำตอบให้แก่ตัวเองได้ และ นำเราไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จได้เร็วกว่าคนอื่น แต่ถ้าเราเองไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆเขาเราจะเป็นคนอะไรก็ได้ทันที สำเร็จก็ได้นะ ล้มเหลวก็ได้นะ เท่านี้ทีดีพอแล้ว อาการเหล่านี้จะเกิดกับเราทุกวันแต่ถ้า เราลองกล้าคุยกับตัวเองเพื่อตั้งคำถามง่ายๆและหาคำตอบดูจะรู้ว่า แท้จริงแล้วเราเองก็เก่งเหมือนกัน ดังนั้น การตั้งคำถามนั้นเป็นสิ่งคำคัญ การตั้งคำถามแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ใช้ Core Problem แกนกลาง หรือ รากของปัญหาที่เราต้องการแก้ให้เราถามต่อไปกับตัวเราเอง อีกขั้น หรือ อีก Step เพื่อถอยไปจนกว่าจะเจอสาเหตุจริงๆของปัญหา และลงมือแก้ไขที่ละขั้นจนกลับมาเจอคำถามแรก BASIC QUESTION ?        ถ้าเราอยาก

วันนี้ เร็วเท่าเดิมไม่สามารถยืนหยุดจุดเดิมได้อีกแล้ว     เรามาสู่ยุคที่การทำงานแบบเดิมๆ ช่วยอะไรเราไม่ได้แล้ว มักเกิดคำถามกับคนที่ทำงานเก่งและประสบณ์ความสำเร็จในอดีต หรือแม้แต่ปีที่ผ่านมาเองก็ดี แล้วทำไหมวันนี้ มันไม่ดีเหมือนเดิม วันนี้เหนื่อยขึ้นแต่ไม่เห็นผล ซึ่งเราก็ทำดี และ ขยันเช่นเดิม วิธีการทำงานเราก็ทำเหมือนตอนที่เราเคยสำเร็จในอดีต คำตอบมันง่ายๆเลยครับ เพราะว่า วันนี้คือมันไม่เหมือนเดิม การที่เราจะรักษาระดับเดิม หรือ อยากจะก้าวหน้าขึ้นกว่ามันแปลว่าเราต้อง ทุ่มเท มากกว่าเดิม เราหนี้ไม่พ้นไม่ว่าจะทำงานอะไร เปรียบได้กับการวิ่ง คุณจะชนะ หรือนำหน้าเขาได้อย่างไรเมื่อคนอื่นวิ่งเร็วขึ้น เขาต้้งใจทำลายสถิติตัวเขาเอง แต่เราเองยังคงทำเหมือนเดิม และ นั่งดูผลที่เกิดขึ้นค่อยๆลดลง นั่งท้อแท้ ถึงเวลาที่เราต้องวิ่งให้เร็วกว่าเดิม เพื่อที่จะรักษามาตราฐานเดิม และ วิ่งให้เร็วมากขึ้นอีกเพื่อที่จะสำเร็จมากขึ้นตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้กันแล้วครับ Today you have to run faster to stay in place.  Credit By : Philip Kotler

Inside - Out VS Outside – In         คำถามยอดฮิตของคนที่ต้องเริ่มต้นในการทำธุรกิจ คือ จะขายอะไรดี ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีคำถามนี้ เกิดขึ้นมาในหัวของเราแม้ว่าวันนี้จะมีธุรกิจใหญ่โต หรือ ตอนนี้จะคิดออกแล้วว่าจะขายอะไร คำถามที่ฮิตคำนี้ล้วนแล้วแต่มีเกิดขึ้นกับทุกคน หรือบางคนที่ต้องการหาสินค้ามาขายเพิ่มหรือขยายธุรกิจ ผู้รู้หรือกูรูหลายๆคนออกมาเสนอ ฟันธง สินค้า หรือบริการกันหลายต่อหลายสิ่ง          บ้างว่าขายเครื่องสำอางดีมากๆเป็นที่นิยม บ้างว่าอาหารเสริมคนรักษาสุขภาพมีมาก บ้างว่าขายกาแฟคนกินทุกวัน ไม่ว่าธุรกิจเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าธุรกิจนี้จะเป็นที่นิยมขนาดไหน ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านกระบวกการคิดและการวางแผนทั้งสิน แล้วต้นต่อการหาคำตอบว่าเราจะขายอะไร ซึ่งวันนี้ถ้าใครหลายคนคิดไม่ออกและไม่มีหลักการในการคิด เราสามารถนำหลักการคิดแบบ  Basic Marketing  ไปใช้ได้ง่ายๆ คือ Inside - Out VS Outside – In Inside – Out อธิบายแบบง่ายๆ ภายใน สู่ ภายนอก          ภายใน  ก็คือ ตัวเราเองเรามีอะไรดี มีความรู้อะไร จุดแข็งหรือจุดเด่นคืออะไร เราถนัดอะไร เราชอบและเราสนใจอะไร และ เรามีข้อได้เปรียบอย่าง

คุณสร้างข้อได้เปรียบ advantage  การลงทุนในการทำการตลาดได้ง่ายๆ       ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าและบริการ มีมูลค่าที่สูงขึ้นจน สินค้าบางตัวหรือบาง Brand คนธรรมดาไม่สามารถจับต้องได้ เพราะสาเหตุจากต้นทุน รวมถึงการลงทุนในด้านต่างๆ การที่เราเปิดบริษัทขึ้นมาไม่ว่าจะมีขนาดเล็กขนาดใหญ่เพียงใด มูลค่าตลาดเท่าไร มีมูลค่าหรือคุณค่าในตัวแบรนด์ หรือสินค้าสูงเท่าไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนด้านต้นทุน เพราะ สิ่งที่สามารถทำให้สินค้าบริการหรือบริษัทของเรามีข้อได้เปรียบนั้นเราคงหนีไม่พ้น การต้องมีการบริหารต้นทุนที่ต่ำ Cost ที่ดี หรือ การที่เราต้องการส่งเสริมการตลาด ออก Promotion มาเพื่อกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้าเพื่อสร้างยอดขาย หรือแม้แต่การจัดส่งสินค้า การขนส่งเพื่อให้สินค้าที่เราจัด Promotion ส่งถึงมือลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายอย่างทันเวลาจนเกิดความพึงพอใจนั้น ล้วนแล้วแต่ต้องเข้าใจ ในสิ่งที่จะสร้างให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ซึ่งสิ่งที่เราต้องรู้ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนหรือสาเหตุ วิธีการสร้างความพึงพอใจนั้น ของกิจกรรมต่างๆ แท้จริงแล้ว เราเรียกมันว่า ความรู้พิ้นฐาน       ควา

Content marketing                        ธุรกิจในยุคดิจิตอลทุกวันนี้การสื่อสารทางการตลาดมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งนอกจากสื่อจะมีความสำคัญแล้วเนื้อหาหรือ Content ก็มีความสำคัญเช่นกัน การจะทำเนื้อหาเรื่องราวที่เราต้องการสื่อสารหรือต้องเล่าให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายรับทราบนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นเรามาลองการทำ Content หรือ การทำตลาดคอนเทนต์ ที่ละขั้น ไปพร้อมกัน ตามหลัก Marketing 4.0 โดย Philip Kotler โดยเรามาเริ่มจาก 1.   กำหนดวัตถุประสงค์ในการทำ ว่าเราต้องการเพื่อสร้างยอดขาย หรือ ต้องการเพื่อสร้างแบรนด์ 2.   กำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยเราใช้ Segmentation มาช่วย เจาะให้ลึกถึง Subculture แบ่งตามพฤติกรรม กลุ่มเล็ก Focus ลงไปจะทำให้ Content เราเฉียบคมมากขึ้น 3.   วางแผนผลิตคอนเทนต์ กำหนด Theme และ Format รวมถึง วิธีการเล่าเรื่องตามวัตถุประสงค์ ให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งการทำคอนเทนต์ที่ดีเราควรทำให้มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับชีวิตลูกค้า และ ต้องสะท้อน Brand ของเราด้วย 4.   ผลิตคอนเทนต์ การผลิตสำคัญที่สุดเราจะผลิตเองหรือเราจะให้ลูกค้าช่วยเราผลิตและเรานำ Content นั้นมาเล่าแทนลูก

Promotion                การส่งเสริมการขายจากอดีตจนถึงปัจจุบันการจะขายหรือการจะให้เกิดการซื้อสินค้าล้วนแล้วแต่ต้องมีวิธีการกระตุ้นการสั่งซื้อเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเกิดความต้องการ กระตุ้นการสั่งซื้อตัดสินใจให้เร็วขึ้น กระตุ้นการสั่งซื้อต่อเนื่อง ซื้อซ้ำ และ กระตุ้นการมีส่วนร่วมในตัวสินค้าหรือบริการนั้น จนกลายเป็นผู้บอกต่อ หรือ เป็นตัวแทนจำหน่ายของสินค้าของเรา การส่งเสริมการขายมักเกิดจากกระแสความนิยมของคนหมู่มาก และสิ่งที่ทำตามๆกัน จากเรียนรู้จากประสบการณ์ของสินค้าตัวอื่นๆ บริษัทอื่น หรือเราอาจจะได้ยินคำที่บอกว่า เขาบอกว่า เขาทำกัน คนอื่นทำแล้วได้ผลดี เดี่ยวลองทำดูบ้าง การทำการส่งเสริมการขายทั้งธุรกิจ ขายสินค้าและบริการ ทั้งระบบ Offline หรือ Online ล้วนแล้วแต่ควรมีหลักคิดเดียวกัน เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมและความต้องการซื้อของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด และเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของธุรกิจ เราต้องหาคำตอบให้ได้ เราจึงสามารถออกแบบรายการการส่งเสริมการขาย Promotion ให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา                วันนี้จึงยกตัวอย่าง Promotion เพื่อเป็น Idea ให้ทุกคนได้นำไปปรับใช้กับธุรกิจ

กระแส Check In Point         กระแสความนิยมในยุดปัจจุบันของคนสมัยนี้กับ การตามหาร้านอร่อย การท่องเที่ยวตามกระแส Check In ตามจุด Center Point Hit ต่างๆ นั้น เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยที่ไม่สนใจว่า สินค้าจะต้องมีราคาที่แพง หรูหรา หรือ ราคาที่ถูกมาก ขอเพียงว่ามีความสอดคล้องกับ Lifestyle นอกจากความอร่อย มีกระแสการบอกต่อ Buzz หรือ มี Comment ดีจาก Social อีกปัจจัยที่สำคัญคือ ต้องมีอะไรที่เป็น Gimmick ของร้านเช่น ชามใหญ่ และ จุดถ่ายภาพมุมต่างๆของร้าน หรือ สถานที่ใกล้เคียงเป็นอีกสิ่งที่สำคัญในการทำให้ ลูกค้านั้นเต็มใจที่จะมากินที่ร้าน แม้จะต้องเข้าซอยลึกขนาดไหนก็ตามเป็นการฉีก กฏของ 4 P’s ตัว Place อีกสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องเป็นสิ่งที่ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆตามกระแสคนยุคใหม่ นักชิมแบบไม่ซ้ำที่ในยุคนี้ นักการตลาดนั้นต้องให้ความสำคัญกับเส้นทางของลูกค้าของเราเองว่า ลูกค้าจะมีเส้นทางเดินมาอย่างไรที่จะเข้ามาที่ร้านเรา จะมาเพื่ออะไร ถ่ายภาพจุดไหน ใช้เงินประมาณเท่าไร จนถึงจะกลับไปอย่างไร เส้นทางตั้งแต่ต้นจนจบนักการต้องสร้างเส้นทางนี้ให้ได้    

5 วินาทีทองยุด 4.0  Golden 5 second minute The skippable world's five second challenge   “ 5 วินาทีทองในโลกที่คลิกข้ามได้ ”   Credit : Marketing 4.0 By Philip Kotler          ถ้าคุณไม่สามารถสร้างความสนใจในโฆษณาของคุณ หรือสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารให้กับกลุ่มเป้าหมายภายในเวลา 5 วินาที ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหรือผู้รับสารจะไม่สนใจ ปิดทิ้ง กดผ่าน หรือ การกด Skip ไปเลย เพราะโลกทุกวันนี้ สื่อต่างๆมีปริมาณมาก เช่น เมื่อคุณชมโฆษณาบน Youtube จะมีปุ่มให้กดข้าม Skip เพียง 5 วินาที หรือ การลง Post ใน Facebook หรือ Facebook Page ก็ดีการเลื่อนนิ้วเพื่อหยุดดูบางทีอาจจะเร็วกว่า 5 นาทีในบางเวลา        ดังนั้น Key สำคัญคือ ไม่ว่าจะต้องการสื่อสารอะไรก็ตามถึงลูกค้า หรือผู้รับสารควรสร้างความสนใจให้ได้ต้องแต่ 5 วินาทีแรก ถ้าช่วง 5 วินาทีแรกยังไม่สามารถปิดการขายได้อย่างน้อยต้องสร้างความสนใจให้กลุ่มเป้าหมายอยากดูเราต่อ หรือ รับรู้ว่าเราคือใคร ทำอะไรที่ช่วยแก้ปัญหาเขาได้อย่างไร ติดต่อเราได้ที่ไหนต่อไป         การสื่อสารเป็นขั้นตอนที่สำคัญจึงต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวในการนำเสนอ หรื

Marketing Mix                  สวนผมสมการตลาดหรือ 4 P นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ผู้ต้องการทำธุรกิจ ต้องการขายสินค้าไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Offline หรือ Online ก็ดีไม่อาจมองข้ามไปได้เพราะถือได้ว่า การผสมส่วนผสมทางการตลาดเป็นขั้นตอนที่สำคัญในในยุคที่ การตลาดเกิดการแข่งขันสูง และ การเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมของคนมีสูงกว่า จึงทำให้ยุดที่ 4 P ธรรมดานั้นจะไม่เพียงพอ ต้องเพิ่มอีกสิ่งหนึ่งเข้าไปเพื่อให้เป้าหมายในการทำงานตลาดไม่หลงทาง คือ + (Plus) เมื่อรวมกันเข้าไปจะกลายเป็น 4 P+ เรามารู้จักกับเจ้าตัว 4 P + Plus กัน 1. Product คือ ผลิตภัณฑ์ สิ่งแรกที่เราต้องรู้ว่าเราจะ ขายอะไร อะไรคือสินค้าของเรา ทั้งที่จับต้องได้คือสินค้าที่ขายอยู่ทั่วไป หรือสินค้าที่จำต้องไม่ได้ เรียกได้อีกแบบว่า บริการ ในส่วนตัว P Product มีความสำคัญถ้าเราสามารถกำหนดกลุ่ม Product เราได้ว่าเราจะมี Product line อะไรบ้างจะทำให้เราสามารถวางแผนได้ดีมากขึ้นทั้งด้านต้นทุนและเป็นประโยชน์ต่อ P ตัวอื่นๆด้วย 2.   Price คือ ราคาสินค้า การตั้งราคานั้นต้องคำนึงในปัจจัยหลายๆด้านไม่ว่าจะมาจากต้นทุนรวม คู่แข่งในตลาด ที่สำคัญคือ ก

Mindset                การจะลงมือทำสิ่งต่างๆในเวลานี้ ต้องอาศัยความรวดเร็วและลงมือทำอย่างจริงจัง เมื่อเราตัดสินใจในการลงมือทำแน่นอนเราต้องมีการคิดวางแผน วิธีการต่างๆมากมายเพื่อการเลือกใช้เครื่องมือต่างๆเข้ามาสนับสนุนสิ่งที่เราจะทำอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และถ้าเราต้องมีการคิดแผนต่างๆหรือวิธีการต่างๆนั้น เราหนี้ไม่พ้น คำว่า Mindset ที่ใครหลายๆคนเรียกเป็นคำง่ายๆว่า วิธีการคิด หรือ หลักความคิด ซึ่ง การที่คนเรามีวิธีคิดที่ถูกต้องจะสามารถทำให้การทำงานบรรลุไปได้อย่างง่ายดายโดยจะพบกับปัญหาต่างๆน้อยลงหรือพูดได้ว่ารับมือกับปัญหาได้มากกว่าเดิมรวมถึงการมีแบบแผนที่ดีตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยการ Setting Mindset ได้อย่างถูกต้องจะไม่ทำให้เราต้องสูญเสียต้นทุนทั้งเงินและต้นทุนด้านเวลาในจำนวนมาก ที่สำคัญคุณจะใช้โอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน เรามารู้จัก 5 เรื่องจริงของ Mindset วิธีคิด หรือ หลักการคิด อีกด้าน 1.       Mindset เรียนรู้ได้ เป็นสิ่งที่คนที่ไม่มีวิธีคิดสามารถหาข้อมูล สอบถาม และ เรียนรู้จากศูนย์ได้ จนเรามีวีธีคิดได้เพียงเริ่มศึกษาหาข้อมูล 2.       Mindset ติดต่อกันได

การใช้ Elevator Picth มาใช้ในการสื่อสาร                ยุคดิจิตอล 4.0 เรียกได้ว่าเป็นยุคที่วิถีชีวิตคนมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน สามารถสะท้อนออกมาในด้านพฤติกรรม การใช้ชีวิต การรับรู้ข้อมูลการสื่อสาร ร่วมถึงการเข้าถึงสื่อต่างๆหลากหลายรูปแบบ สิ่งที่สำคัญคือเรายังคงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเลื่อยๆ เพราะสิ่งที่เราเรียกว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเพื่อขจัดปัญหาการใช้ชีวิตของคนเรา                เมื่อการสื่อสารมีความรวดเร็ว และยุคนี้คือยุคที่ทุกๆคนเป็นเจ้าของสื่อที่มาจากโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือ เรื่องราวต่างๆที่ต้องการ การสื่อสารตรงถึงคนเราจะมีมากจนใช้คำว่า “ ล้นเมือง ” เราจึงควร บริหารจัดการกับการสื่อและสิ่งที่เราต้องการสื่อสารของเราให้ตรงประเด็นถึงลูกค้าในระยะเวลาที่รวดเร็ว สร้างความเข้าใจอย่างตรงประเด็น โดยเราสามารถใช้ Elevator Picth มาใช้ในการสื่อสารได้                Elevator Picth คือการนำเสนอโครงการธุรกิจกับลูกค้าบนลิฟท์ โดยบอกถึงสาระสำคัญตรงประเด็น โดยเรียงลำดับความสำคญ ด้วยคำพูดน้ำเสียงที่น่าฟัง น่าติดตาม สามารถบรรลุเป้าหมา

      ช่องทาง Modern Trade และ Chain Store เป็นช่องทางที่ปัจจุบันมีความสำคัญอย่างมาก และ ผู้จัดจำหน่ายจำนวนมากต่างมีความคิดว่า วันหนึ่งสินค้าของเราต้องเข้า Modern Trade ให้ได้ แต่ในยุค 2018 เมื่อหลายสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความรู้และการกำหนดแผนการ จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ดีที่สุด เรามารู้จักกับ 5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเข้า Modern Trade 1. วัตถุประสงค์ Objective      เราต้องการเข้า Modern Trade เพื่ออะไร เช่น ทำเป็นช่องทางหลักในการขาย หรือ เพื่อเป็นการทำโฆษณาเพิ่มความน่าเชื่อถือแต่เน้นขายช่องทางอื่น ซึ่ง Goal ที่สำคัญคือกำไรของบริษัท 2. งบประมาณ Budget      เราทราบกันดีว่าช่องทางนี้ใช้เงินไม่น้อย เริ่มต้นจากเปิดหน้าบัญชีการทำธุรกิจร่วมครั้งแรก ค่าแรกเข้าค่าส่งเสริมการขาย และ ค่าใช้จ่ายสนับสนุนด้านอื่น ในฐานะ Partner 3. เลือกห้าง Choose Trade      มีคำว่ากล่าวว่า "เราควรเลือกในวันที่เรามีสิทธิ์ที่จะเลือก" เลือกให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าของเราที่สุด รวมถึงภาพลักษณ์ ชื่อเสียง Trafficลูกค้า รูปแบบการส่งเสริมการขายของ Trade และ สำคัญ ต้องพอกับงบประมาณที่เราตั