" Choose what not to do "
" Choose what not to do "
ปัจจุบันการทำธุรกิจ หรือ
การขายสินค้ามีขั้นตอนต่างๆที่เราต่างตั้งใจทำหรือตั้งใจสร้าง Promotion ต่างๆเพื่อกระตุ้นและสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ
การทำกิจกรรมทางการตลาดนั้นจะมีสิ่งหนึ่งที่เราต้องสูญเสีย นั้นคือต้นทุน
ที่อาจจะมาในรูปตัวเงิน และ ในรูปของเวลาเรียกว่าโอกาส
การทำทุกอย่างหลายๆอย่างมองแล้วอาจจะ ฟังแล้วน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ดี
ได้ลองผิดลองถูก แต่ในขณะเดียวกันเราอาจจะปฏิเสธไม่ได้ว่า
ขณะที่เราทำสิ่งหนึ่งเราอาจสูญเสียสิ่งหนึ่งไปนั้น คือเวลาและโอกาส
และถ้าธุรกิจของเรามีกระแสเงินสดในการลงทุนไม่มาก บางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิต
บางคนเงินทุนที่มีกำลังจะหมด หรือแม้แต่บริษัทใหญ่ที่ถูกปรับลดงบประมาณในการทำการตลาด
Promotion ต่างๆตัดงบการทำกับ Agency ลดลง
ดังนั้นสิ่งที่เราจะมาให้ความสำคัญซึ่งอาจเป็นคำที่ฟังแล้ว อาจดูไม่ดีแต่หนีไม่พ้น
คือ
" Choose what not to do "
“ เราควรเลือกว่าอะไรที่เราจะไม่ทำ
“
เราได้เข้ามาสู่ยุคของการที่เราต้องเลือกว่าจะทำสิ่งใดหรือต้องทำอะไร และ อะไรที่ไม่ควรทำเพราะต้นทุนทางด้านเวลาหรือค่าเสียโอกาสและรวมถึงต้นทุนด้านการเงินของเราที่เรารู้จักว่า
Cost นั้นสำคัญ ถือว่าเป็นสิ่งที่เราต้องจำกัดมัน ถ้าเราทำทุกอย่างทุกกิจกรรมทางการตลาด
เราอาจจะได้ไม่คุ้มเสียหรือแย่ไปกว่านั้นเราอาจจะสูญเปล่าได้ถึงขนาดติดลบ
วิธีที่ถูกต้องเพียงเรา กลับมาดูทบทวน ตอนที่เราวางแผนในการทำงาน
ในช่วงที่กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย วัตถุประสงค์การทำธุรกิจ เราดูว่าสิ่งที่เราต้องการทำหรือคิดจะทำ
จะปล่อยรายการ Promotion ตัวไหนออกมาสู่ตลาด นั้นจะต้องการเกิดจากการวางแผนเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราให้ได้
Focus เราไม่ควรลงทุนกับทุกอย่าง ใครว่าดีเราเลยทำ
ใครว่าดีเราเลยไป เราควรหันมานึกถึงคำว่า " Choose what not to do " กันนะครับ
Comments
Post a Comment